11 กรกฎาคมของทุกปี องค์การสหประชาชาติ (UN) กำหนดให้เป็นวันประชากรโลก (World Population Day) ทั้งนี้เพื่อให้ตระหนักถึงปัญหาของประชากรโลก ส่งเสริมสนับสนุนให้ความรู้สิทธิพื้นฐาน รวมถึงการวางแผนครอบครัวซึ่งจะนำไปสู่การมีประชากรโลกที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี
ประชากรโลกเรามีมากแค่ไหน World Population Prospects 2022 ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา โลกเรามีประชากรครบ 8 พันล้านคน แม้จำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้น แต่ปัจจุบันเกิดสถานการณ์ภาวะเจริญพันธุ์ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในหลายประเทศ โดยในทุกวันนี้มี 2 ใน 3 ของประชากรโลกอาศัยอยู่ในประเทศหรือพื้นที่ที่มีอัตราการเจริญพันธุ์ตลอดอายุขัยต่ำ
กว่า 2.1 คนต่อผู้หญิง 1 คน ซึ่งเป็นระดับโดยประมาณที่จำเป็นสำหรับการเติบโตเป็นศูนย์ในระยะยาว สำหรับจำนวนประชากรที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ซึ่ง มีประชากรจาก 61 ประเทศ ที่คาดว่าจะลดลง 1% หรือมากกว่านั้นระหว่างปี 2565 ถึง 2593 อันเนื่องมาจากอัตราการเจริญพันธุ์ที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง และในบางกรณีเกิดจากอัตราการย้ายถิ่นฐานสูงขึ้น
นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรโลก ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจนถึงปี 2593 จะกระจุกตัวอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก อียิปต์ เอธิโอเปีย อินเดีย ไนจีเรีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ และสหสาธารณรัฐแทนซาเนีย และยังมีการคาดการณ์ว่า ประเทศในแถบอนุภูมิภาคทะเลทรายซาฮาราจะมีประชากรคิดเป็นตัวเลขมากกว่าครึ่งหนึ่งของการเพิ่มขึ้นที่คาดการณ์ไว้จนถึงปี 2593
อย่างไรก็ดี ในบริบทด้านประชากรในปี 2566 หนีไม่พ้นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดซึ่งเปลี่ยนจากจีนมาเป็นอินเดีย โดยองค์การสหประชาชาติ เปิดเผยรายงานสถานะประชากรโลกของกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (United Nations Population Fund) ระบุว่า ประชากรอินเดียจะเพิ่มจำนวนขึ้นแตะระดับ 1,428 ล้านคนในช่วงกลางปีนี้และจะแซงหน้าแชมป์เก่าจีนซึ่งมีตัวเลข 1,425 ล้านคน ทำให้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกรายใหม่ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลประชากรโลกเมื่อปี 2493
สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนประชากรของจีนลดลง คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจากค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนสตรีที่เข้าสู่ตลาดแรงงานและแสวงหาการศึกษามากขึ้น และแม้รัฐบาลจีนจะยุติ “นโยบายลูกคนเดียว” ที่เข้มงวด ซึ่งบังคับใช้ครั้งแรกในปี 2523 จากความหวาดกลัวประชากรล้นโลก ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายใหม่ในปี 2564และเริ่มปล่อยให้แต่ละครอบครัวสามารถมีลูกได้ 3 คน ผนวกกับที่หลายภูมิภาคของจีนได้ประกาศเดินหน้าแผนการเพิ่มอัตราการเกิดแล้ว แต่ความพยายามดังกล่าวก็ยังไม่สามารถแก้ไขการลดลงของจำนวนประชากรได้ และสิ่งที่จีนเผชิญก็ไม่ต่างอะไรจากประเทศอื่น ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ซึ่งมีอัตราการเกิดของประชากรต่ำลงและเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาและเศรษฐกิจกำลังดีขึ้น
รายงานระบุว่า อินเดียไม่ได้จัดทำการสำรวจสำมะโนประชากรตั้งแต่ปี 2554 แม้จะเคยพยายามสำรวจสำมะโนประชากรครั้งล่าสุดในปี 2564 แต่กระบวนการก็หยุดชะงักไปเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 -ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า รัฐบาลจงใจชะลอการสำรวจดังกล่าว เพื่อปกปิดข้อมูลในประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงก่อนการเลือกตั้งระดับชาติในปี 2567 เช่นตัวเลขการว่างงานถึงเช่นนั้น แม้อินเดียอาจแซงหน้าจีนในด้านจำนวนประชากรก็จริง แต่ข้อมูลก็ยังแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันอัตราการขยายตัวของประชากรได้ชะลอตัวลงแล้วเช่นเดียวกัน เพียงแต่จีนชะลอเร็วกว่าอินเดีย
ขณะที่สถิตจำนวนประชากรของประเทศไทย เมื่อสิ้นสุดปี พ.ศ.2565 พบว่า มีจำนวนประชากรรวมทั้งสิ้น 66,090,475 คน เป็นสัญชาติไทย 65,106,481 แยกเป็นชาย 31,755,032 คนหญิง 33,351,449 คนและไม่ได้เป็นสัญชาติไทยจำนวน 983,994 คน และเมื่อแยกเป็นรายจังหวัดพบว่า พื้นที่ของจังหวัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีประชากรมากที่สุดในประเทศรวมจำนวน 5,494,932 คน ส่วนจังหวัดที่มีประชากรน้อยสุดตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ได้แก่ จังหวัดสมุทรสงคราม มีจำนวนประชากรตามทะเบียนราษฎร 189,453 คน
ที่มา :National Geographic Thailand CNN, UNFPA, prachachat.net