แมรี กอนซาเลซ ดี-คลินท์ สมาชิกสภาผู้แทนรัฐเท็กซัส ยื่นร่างรัฐบัญญัติเอชบี 1547 (House Bill 1547) เรียกร้องให้การเรียน การสอนเรื่องเพศศึกษาต้องมีหัวข้อว่าด้วยการศึกษาเพศสภาพ “อย่างถูกต้องเหมาะสมกับวัย”
ร่างรัฐบัญญัติระบุว่าหากนักเรียนจะไม่เข้าเรียนวิชาดังกล่าว ต้องมีคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง “การที่เท็กซัสเป็นหนึ่งในรัฐ ที่ติดอันดับอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นสูงที่สุดในประเทศเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจเป็นอย่างยิ่ง” กอนซาเลซกล่าว “หนุ่มสาวของเราควรได้รับข้อมูลที่ ถูกต้องแม่นยำ”
อัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นในเท็กซัสสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ รายงานปี 2014 ของกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนของสหรัฐฯ ระบุ ว่าอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นหญิงอายุ 15 ถึง 19 ปี อยู่ที่ 40 คนต่อ 1,000 คน ขณะที่ทางกระทรวง ฯ ระบุว่าอัตราทั่วประเทศของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นช่วงอายุเดียวกันนี้ในปี 2015 อยู่ที่ 22 คนต่อ 1,000 คน
สมาชิกสภาผู้แทนรัฐฝั่งเดโมแครตกำลังหาทางเพิ่มข้อบังคับให้มีการเรียนการสอนเพศศึกษาในโรงเรียนไฮสคูลหวังให้ลดอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นรัฐเท็กซัส
กอนซาเลซยื่นร่างกฎหมายนี้ตามหลังรายงานล่าสุดของเครือข่ายเท็กซัสเพื่ออิสรภาพ (Texas Freedom Network) ที่ระบุว่ากว่าร้อยละ 80 ของเขตการศึกษาของรัฐไม่ได้สอนเรื่องเพศศึกษา หรือไม่ก็สอนการคุมกำเนิดโดยวิธีการงดเว้นเพศสัมพันธ์เท่านั้น
การศึกษาวิจัยพบว่าจำนวนเขตการศึกษาที่ไม่มีการเรียนการสอนเรื่องเพศศึกษาเพิ่มจากร้อยละ 2.3 ในปี 2008 เป็นร้อยละ 25 ในปี 2016 ทางเครือข่ายยังระบุว่า เมื่อปีกลาย มีเขตการศึกษาอีกร้อยละ 58 ที่สอนเรื่องเพศศึกษาโดยใช้วิธีงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น เขตการศึกษาเหล่านี้ไม่ได้ใส่ข้อมูลเรื่องถุงยางอนามัยหรือวิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ ไว้ในการเรียนการสอนแต่อย่างใด “ข้อมูลที่ได้ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นชัดว่าผู้วางนโยบายต้องสร้างสามัญสำนึก นี่คือวิธีแก้ไขปัญหาที่จำเป็นมาก” กอนซาเลซเคยยื่นร่างกฎหมายคล้ายกันนี้ในการประชุมครั้งที่แล้ว แต่ก็ไม่ผ่าน
ปัจจุบัน นักเรียนมัธยมเท็กซัสสามารถจบการศึกษาได้โดยไม่จำเป็นต้องเรียนวิชาสุขศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่เขตการศึกษาสามารถเปิดให้เป็นวิชาเลือก กฎหมายรัฐเท็กซัสปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการที่ปรึกษาของแต่ละเขตการศึกษาที่จะกำหนดการเรียนการสอนเพศศึกษาเอง โดยให้ข้อบังคับว่า “นำเสนอว่าการงดเว้นกิจกรรมทางเพศคือตัวเลือกที่ดีกว่า”
แนวทางเรื่องเพศศึกษาของเท็กซัสกลายเป็นข่าวระดับประเทศปี 2015 เมื่อโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองเครน เกิดการระบาดของเชื้อหนองในเทียม(chlamydia) ทำให้โรงเรียนซึ่งสอนเฉพาะวิธีการงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้นดึงดูดความสนใจจากผู้วิจารณ์ เพราะหลักสูตรไม่ได้สอนนักเรียนเรื่องการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยเลย
นักวิจัยมองว่าความหวังในการผลักดันโครงการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นคือใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในเขตการศึกษาท้องถิ่น ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการชะลอการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกของวัยรุ่นออกไป ลดอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และลดจำนวนโรคติดต่อทางเพศ โครงการนี้สามารถรวมวิธีการแบบที่ต้องงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้นเข้าไว้ด้วย แต่ค่อย ๆ เพิ่มปริมาณข้อมูลที่นักเรียนควรจะได้รับไปตามวัย
เคิร์สเทน พลาสติโน เป็นผู้นำโครงการสุขภาพวัยรุ่นมหาวิทยาลัยเท็กซัส (UT Teen Health) ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมืองซานอันโตนิโอ ซึ่งเป็นโครงการที่ทำงานด้านให้ความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างถูกต้องเหมาะสมกับวัย พลาสติโนบอกว่ามีเขตการศึกษาอย่างน้อยเก้าแห่งในแบร์ เคานตี้ ได้นำโครงการเพศศึกษาแบบใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ไปใช้ในหลักสูตร และการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นก็ลดจำนวนลงอย่าง
เห็นได้ชัด
“เราต้องแน่ใจว่านักเรียนได้ข้อมูลที่ถูกต้อง” พลาสติโนกล่าว พร้อมกับยกตัวอย่างว่าวัยรุ่นชาวเท็กซัสควรรู้ว่าถุงยางไม่ได้ให้ผลเต็มร้อย “เด็กต้องรู้ว่าไม่มีวิธีไหนที่จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นการไม่มีเพศสัมพันธ์”
เดวิด ไวลีย์ ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส ผู้เขียนรายงานปี 2009 ของเครือข่ายเท็กซัสเพื่ออิสรภาพกล่าวว่าเขตการศึกษาต่าง ๆ มักกลัวหากต้องพูดถึงประเด็นการเรียนการสอนเพศศึกษาในโรงเรียนรัฐบาล “พวกนักเรียนเรียนรู้อย่างรวดเร็วว่าไม่ควรพูดอะไร” เขาบอก “เรากำลังสร้างผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจเรื่องเพศขึ้นมารุ่นแล้วรุ่นเล่า”
รายงานฉบับนี้อ้างอิงจากการสำรวจเขตการศึกษาของรัฐราวร้อยละ 15 ซึ่งมีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอยู่ด้วย ข้อมูลที่รวบรวมจากเขตการศึกษาภายใต้รัฐบัญญัติข้อมูลสาธารณะเท็กซัสพบว่านักเรียนได้รับข้อมูลผิด ๆ เกี่ยวกับการทำแท้ง โครงการงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้นเต็มไปด้วยข้อมูลไม่ถูกต้อง และมีเขตการศึกษาน้อยแห่งที่กล่าวถึงประเด็นสุขภาพเกี่ยวกับนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ
เครือข่ายเท็กซัสเพื่ออิสรภาพแนะนำให้คณะกรรมาธิการการศึกษาแห่งรัฐ นำตำราสุขศึกษาเล่มใหม่มาใช้ และให้สภาผู้แทนของรัฐนำสุขศึกษากลับมาเป็นวิชาบังคับเพื่อจบการศึกษาสำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอีกครั้ง
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก 3c4teen