ยายุติการตั้งครรภ์ เป็นยาที่ใช้หยุดการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์สำหรับผู้ที่มีปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมโดยมีอายุครรภ์ไม่เกิน 9 -12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ที่ทำการรักษา โดยตัวยาจะเข้าขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์ ทำให้ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิไม่สามารถฝั่งตัวในผนังมดลูกได้ ทำให้มดลูกเกิดการบีบตัวและขับเนื้อเยื่อออกจากมดลูก
ยายุติการตั้งครรภ์ที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลกและได้รับขึ้นทะเบียนในประเทศไทย คือ ไมโซพรอสทอล (Misoprostol) และไมเฟพริสโตน(Mifepristone) ซึ่งยาเหล่านี้เป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เท่านั้น การรับประทานยายุติตั้งครรภ์อาจทำให้มีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียนวิงเวียนศีรษะ ปวดหัว ท้องเสีย มีเลือดออกทางช่องคลอด
สตรีในประเทศไทยสามารถยุติการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องภายใต้ประมวลกฎหมายอาญา 305 (1)(2) และมาตรา 276, 277, 282, 283 และ 284 ดังนี้
ประมวลกฎหมายอาญา 305 วรรค 1 ว่าด้วย 1. การตั้งครรภ์ที่ครรภ์นั้นส่งผลต่อสุขภาพมารดา ทั้งทางร่างกายแและจิตใจ และ 2. กรณีที่ทารกในครรภ์มีความพิการรุนแรง ภายใต้ข้อบังคับแพทยสภา ระบุว่า ความรุนแรงนั้นส่งผลต่อสุขภาพจิตใจของมารดาประมวลกฎหมายอาญา 305 วรรค 2 ว่าด้วย การตั้งครรภ์นั้นเกิดจากความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอีก 5 มาตรา ดังนี้
มาตรา 276 ว่าด้วยการถูกข่มขืนกระทำชำเรา
มาตรา 277 ว่าด้วยการทำให้เด็กอายุน้อยกว่า 15 ปีตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นการสมยอมหรือไม่ก็ตาม
มาตรา 282, 283 และ 284 ว่าด้วยการล่อลวงผู้อื่นมาทำอนาจาร สนองความใคร่โดยใช้อุบายล่อลวง บังคับ ข่มขู่ แม้ว่าในท้ายที่สุดอาจจะเกิดความสมยอมกันก็ตาม โดยผู้ที่ต้องการยุติการตั้งครรภ์ สามารถติดต่อสายด่วนหรือสถานบริการใกล้บ้านเพื่อรับคำปรึกษาถึงทางเลือกในการยุติการตั้งครรภ์ พร้อมรับคำการปรึกษาการใช้ยา และการดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
ประเภทของยายุติการตั้งครรภ์ในประเทศไทย
1.ยาไมเฟพริสโตน (Mifepristone)
ยาไมเฟพริสโตน 200 มิลลิกรัม เป็นยาที่ก่อให้เกิดอาการแท้งในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ คือ ตั้งแต่ช่วงเริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 10 ของการตั้งครรภ์ หรือ 70 วันหลังจากวันแรกของรอบเดือนครั้งสุดท้าย โดยตัวยาไมเฟพริสโตนมักใช้ร่วมกับยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol) จะเข้าไปขัดขวางฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์
ผลข้างเคียง อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ท้องเสีย อ่อนแรง ควรพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเกิน 24 ชั่วโมง หรือมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้เกิน 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ปวดท้อง หัวใจเต้นเร็ว เป็นลม
ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้ยาไมเฟพริสโตนหากมีภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูก เพราะนอกจากจะไม่ช่วยยุติการตั้งครรภ์แล้ว ยังอาจทำให้มดลูกแตกส่งผลให้เกิดเลือดออกรุนแรงได้ปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ยาโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาต่อมหมวกไต ปัญหาเลือดออกผิดปกติ ใช้ห่วงอนามัย หรือผู้ที่ตั้งครรภ์นานกว่า 10 สัปดาห์
2.ยาไมโซพรอสทอล (Misoprostol)
ยาไมโซพรอสทอล เป็นยาที่ใช้ร่วมกับยาไมเฟพริสโตนเพื่อยุติการตั้งครรภ์ ช่วยทำให้เกิดการบีบตัวของมดลูกและขับเนื้อเยื่อออกจากมดลูก นอกจากนี้ยังใช้ในการป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารเป็นแผลในขณะใช้ยาชนิดอื่น เช่น ไอบูโพรเฟน แอสไพริน นาพรอกเซน (Naproxen)
ผลข้างเคียง อาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย ดังนั้นจึงควรพบคุณหมอทันทีหากอาการแย่ลงหรือมีอาการรุนแรงต่าง ๆ เช่น ภาวะขาดน้ำ ปัสสาวะน้อย วิงเวียนศีรษะ อารมณ์แปรปรวน กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นผิดปกติ ประจำเดือนผิดปกติ มีเลือดออกทางช่องคลอด
ข้อควรระวัง แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีประวัติการรักษาโรคกระเพาะหรือโรคลำไส้อักเสบ และหากใช้ยาไมโซพรอสทอลร่วมกับยาไมเฟพริสโตนเพื่อยุติการตั้งครรภ์แล้วมีอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกทางช่องคลอดยาวนาน การติดเชื้อ มีไข้ หนาวสั่น เป็นลม ควรรีบพบแพทย์ทันที
ข้อห้ามสำหรับการใช้ยายายุติการตั้งครรภ์
1.ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการไม่ควรใช้ยาไมเฟพริสโตน และยาไมโซพรอสทอล ดังนี้
2.มีภาวะเลือดออกไม่หยุด หรือเป็นโรคเลือดขั้นรุนแรง
3.มีภาวะท้องนอกมดลูก
4.เป็นโรคปอดหรือโรคหอบหืดรุนแรง และต้องใช้ยาเพื่อควบคุมอาการ
5.เป็นโรคต่อมหมวกไต หรือโรคไตขั้นรุนแรง
6.ก่อนใช้ยายุติการตั้งครรภ์ ควรปรึกษาและได้รับการอนุญาตจากแพทย์ และซื้อยาจากสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
ความเสี่ยงจากการใช้ยายุติการตั้งครรภ์
การใช้ยายุติการตั้งครรภ์นั้นจะปลอดภัยเมื่อได้รับการควบคุมขนาดยา และได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ แต่หากใช้ยาผิดขนาด ผิดวิธี ใช้ยาปลอม หรือไม่ได้รับการตรวจ
สุขภาพและการแพ้ยาอาจมีความเสี่ยงเกิดปัญหารุนแรงได้ ดังนี้
1.หากใช้ยาเกินขนาดอาจส่งผลให้มดลูกแตกและเสียชีวิตได้
2.ผู้ที่มีภาวะสุขภาพบางชนิด เช่น ท้องนอกมดลูก โรคไต เลือดออกไม่หยุด ไม่ควรใช้ยายุติการตั้งครรภ์เพราะอาจทำให้เลือดออกไม่หยุดหรือมดลูกแตกได้
3.ผู้ที่ซื้อยาทำแท้งทางอินเทอร์เน็ตเสี่ยงได้รับยาปลอม ไม่ได้รับคำปรึกษาการใช้ยาและอาการข้างเคียงอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดปัญหาแท้งบุตรไม่สมบูรณ์ ตกเลือด ติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตได้
คำเตือน ไม่ควรซื้อยายุติการตั้งครรภ์มากินเอง ควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด
ปรึกษาท้องไม่พร้อมได้ที่คลินิกเวชกรรม สวท 02-941-2320 ต่อ 181-183 (ในวันและเวลาราชการ)
ปรึกษาแพทย์ทางไกล กดเพิ่มเพื่อน
ปรึกษาแพทย์ทางไกลคลินิกเวชกรรม สวท
ขอบคุณข้อมูลจาก hellokhunmor.com