ยาฝังคุมกำเนิดดีอย่างไร

nexplanon-1

ยาฝังคุมกำเนิด (Contraceptive Implant) เป็นการใช้ฮอร์โมนชนิดเดียว คือ โปรเจสติน (Progestin) ที่บรรจุเอาไว้ในหลอดหรือแท่งพลาสติกเล็กๆ ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร ขนาดเท่าไม้จิ้มฟันชนิดกลม นำมาฝังเข้าไปที่ใต้ผิวหนังบริเวณใต้ท้องแขนด้านในที่ไม่ถนัด ใช้เวลาในการฝังยาประมาณ 10-15 นาที ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะค่อยๆ ซึมผ่านออกมาจากแท่งยาเข้าสู่ร่างกาย และไปยับยั้งการเจริญเติบโตของฟองไข่ ส่งผลทำให้ไม่มีการตกไข่ตามมา จึงช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้นานถึง 3-5 ปี

ข้อดีของยาฝังคุมกำเนิด

1.ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงมาก ประมาณ 1/200 คน ที่เกิดอัตราล้มเหลว

2.เป็นวิธีที่มีความสะดวก ฝังครั้งเดียวสามารถคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี

3. มีอาการข้างเคียงน้อย

4.สามารถเลิกใช้เมื่อใดก็ได้ เมื่อต้องการจะมีบุตรหรือเปลี่ยนเป็นใช้วิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น

5. หลังจากถอดออกจะสามารถมีลูกได้เร็วกว่าการฉีดยาคุมกำเนิด 90% ตกไข่ใน 1 เดือน

6. ยาฝังคุมกำเนิดยังช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ลดภาวะประจำเดือนมามาก

ผู้ที่เหมาะจะใช้ยาฝังคุมกำเนิด

  1. ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและคุมกำเนิดได้ในระยะยาว
  2. ผู้ที่ต้องการเว้นช่วงการมีบุตรอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป
  3. ผู้ที่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน

ผู้ที่ไม่ควรใช้ยาฝังคุมกำเนิด

1.ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือ สงสัยว่าตั้งครรภ์

2.ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบการแข็งตัวของเลือด หรือ กำลังได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด

3.ผู้ที่มีข้อห้ามในการใช้ฮอร์โมนโปรเจสโตเจน

4.ผู้ที่มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดหรือตามอวัยวะเพศต่างๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ

5.ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการทำงานของตับ หรือ กำลังเป็นโรคตับอักเสบ

ผลข้างเคียงของยาฝังคุมกำเนิด

เมื่อฝังยาฝังคุมกำเนิดอาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรืออาจมีอาการระคายเคือง ปวด บวมแดงบริเวณผิวหนังที่ฝังยาเข้าไป แต่อาการจะเป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น นอกจากนี้อาจมีน้ำหนักตัวขึ้น สิวขึ้น ปวดศีรษะ เจ็บเต้านม และอารมณ์แปรปรวนหลังฝังยาคุมกำเนิดในบางราย

ข้อปฏิบัติหลังฝังยาคุม

1.ควรมาพบแพทย์ตามนัด 7 วัน เพื่อดูแผลที่ฝังยา และต่อไปปีละครั้งเพื่อติดตามผล

2.เมื่อครบกำหนด 3 ปี หรือ 5 ปี ต้องกลับมาโรงพยาบาลเพื่อเอายาหลอดเก่าออก และใส่หลอดใหม่เข้าไป

การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ห้ามพยายามกระทำ หรือนำออกด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาได้

ข้อมูลจาก หนังสือ การวางแผนครอบครัว และเทคโนโลยีการคุมกำเนิด ศ.นพ.สุรศักดิ์  ฐานีพานิชสกุล

TAGS

Knowledge

On 16 November 2022, Assoc. Prof. Dr. Luedech Girdwichai, PPAT President, with Assoc. Prof. Dr. Manopchao Thamkhantho, PPAT council’s consultant, Mr. Supavit Dittayanurak, council member and Mr. Panatphong Noradee, Manager of Information Education and Motivation, attended International Conference on Family Planning (ICFP) 2022’s side meeting with 2 partner organizations, which are Bureau of Reproductive Health and Bayer Thai Co., Ltd. to discuss the guidance to propel Thai family planning (Family Planning 2030: FP2030) as well as the partnership between…
Assoc. Prof. Dr. Manopchai Thamkhantho, a board member of the Royal Thai College of Obstetricians and Gynecologists and the Planned Parenthood Association of Thailand (PPAT) council’s consultant, was invited to exchange information on Public Sectors’ Roles in Knowledge Dissemination to Grassroots and Community Engagement under the project “GROWTH: Grow Together Healthier”, cooperated by PPAT and Bayer Thai Co., Ltd. at the International Conference on Family Planning 2022 on 15 November 2022. International Conference on Family Planning 2022 is organized…
Privacy Preferences

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save