fbpx

PPAT Joins Forces to Solve Unplanned Pregnancy Problems

WCD002

On 25 September 2022, PPAT collaborated with Department of Health, Ministry of Public Health and Bayer Thailand, to organize press conference about World Contraception Day 2022, which takes place every 26 September, at Siam Square under the campaign “Breaking Myths”. The activity aimed to reach youth to raise awareness on the importance of contraception for future life planning and quality living as well as to reduce unplanned pregnancy in Thailand. There were variety participants including Assoc. Prof. Dr. Ludech Girdwichai, PPAT President, Dr. Attapon Kaewsamrit, Deputy Director-General of Department of Health, Dr. Boonyarit Sukrat, Director of Reproductive Health Division, Dr. Paneeya Sutabutra, Medical Department’s Director of Bayer Thailand, Mr. Sooksodchuen Sooksomchitra, Mr. Paramet Maneerat, PPAT youth council members and Mr. Somjet Srikanok, PPAT Executive Director as well as youth representatives from Panyapiwat Institute of Management and Rajadamnuan Commercial College. Celebrities such as Khun Ticha Kanticha Chumma and Yes Indeed Band joined the campaign as well.

นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นไทยยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญ จากข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดของกรมอนามัยในปี 2563 วัยรุ่นที่อายุต่ำกว่า 20 ปี มีอัตราการคลอดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวัยรุ่นหญิงอายุ 10-19 ปี คลอดบุตรรวมทั้งสิ้น 57,857 คน หรือเฉลี่ย 159 คนต่อวัน ส่วนการคลอดซ้ำมีจำนวน 4,517 คน หรือประมาณร้อยละ 7.8 โดยกลุ่มที่เป็นปัญหาสำคัญ คือ วัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี พบมีการคลอดบุตรทั้งสิ้น 56,074 คน หรือประมาณ 154 คนต่อวัน(1) ที่ผ่านมากรมอนามัย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการทำงานด้านการส่งเสริมอนามัยการเจริญพันธุ์ที่ดีของวัยรุ่น ได้ร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ได้แก่ สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานเอกชน ร่วมดำเนินการขับเคลื่อนภารกิจงานด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่น เพื่อส่งเสริมความรอบรู้เกี่ยวกับวิธี การคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง และการเข้าถึงบริการคุมกำเนิดกึ่งถาวรตามสิทธิประโยชน์โดยมีเป้าหมายสำคัญ ในการลดอัตราการคลอดมีชีพในหญิงอายุ 15-19 ปีลง ไม่เกิน 25 ต่อ 1,000 ประชากร ในปี 2569

นายแพทย์อรรถพล กล่าวอีกว่า ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในวัยรุ่นจำเป็นต้องอาศัยการทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมากรมอนามัยโดยสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ ได้ร่วมรณรงค์กับ ไบเออร์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง 15 ปี เพื่อส่งเสริมการรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy)และสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นในเรื่องความสำคัญของการคุมกำเนิด วิธีการคุมกำเนิด และการวางแผนครอบครัว เนื่องจากที่ผ่านมาปัญหาการท้องไม่พร้อมในวัยรุ่น ส่งผลให้เกิดเป็นปัญหาสังคมตามมาในหลายด้าน ทั้งอนาคตของผู้ที่ตั้งครรภ์เองปัญหาครอบครัว รวมถึงสุขภาพของผู้เป็นแม่และเด็กในครรภ์ ซึ่งสาเหตุหลักเกิดขึ้นจากการคุมกำเนิดที่ผิดพลาด เกิดจากความไม่รู้หรือมีความรู้แต่ใช้ไม่ถูกวิธี ดังนั้นในปี 2565 นี้ กรมอนามัยจึงร่วมมือกับสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ และไบเออร์ไทย รณรงค์จัดกิจกรรมภายใต้แคมเปญ #เช็คให้ชัวร์ คุมให้ถูก มีลูกเมื่อพร้อม เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องของการคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี ไม่ปล่อยให้ตั้งครรภ์ในขณะที่ตนเองยังไม่พร้อม ในวันคุมกำเนิดโลก 2565

ด้าน รศ.ดร.ฤาเดช เกิดวิชัย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กล่าวว่าปัญหาด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ของประเทศไทยยังคงมีอยู่ ปัจจุบันมีวัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์จำนวนมาก ยังมีความเข้าใจผิดเรื่องการคุมกำเนิด ส่งผลให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พร้อม และนำไปสู่ปัญหาการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับข้อมูลผิด ๆ จากอินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ เราจึงได้ดำเนินงานให้ความรู้เชิงป้องกัน โดยการจัดทำคู่มือ 8 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการคุมกำเนิด ซึ่งได้รับเกียรติจาก สูตินรีแพทย์ 3 ท่าน ได้แก่ ศ.กิตติคุณ นพ.สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รศ.ร.อ.นพ.มานพชัย ธรรมคันโธ ร.น. สูตินรีแพทย์ และกรรมการบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และรศ.ดร.นพ.อติวุทธ กมุทมาศ นายกสมาคมเพศวิทยาคลินิกและเวชศาสตร์ทางเพศ (ประเทศไทย) เป็นผู้ให้ความรู้ เพื่อสื่อสารไปให้ถึงกลุ่มวัยรุ่นผ่านช่องทางต่างๆ

การจัดทำคู่มือ 8 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการคุมกำเนิด มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องการคุมกำเนิด อาทิ การกินยาคุมย้อนศรแล้วหน้าอกใหญ่ขึ้น ผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดหากเลิกกินแล้ว จะทำให้ตั้งครรภ์ยาก กินยาคุมต่อเนื่องทำให้เป็นมะเร็ง นับหน้า 7 หลัง 7 แล้วปลอดภัยแน่นอนมีเพศสัมพันธ์ได้ ผู้หญิงจะไม่ท้องหากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงมีประจำเดือน และยาคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถใช้แทนยาคุมกำเนิดแบบปกติ เป็นต้น

ในส่วนความร่วมมือจากภาคเอกชน นางสาวจินอา ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด และผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจฟาร์มาซูติคอลกล่าวว่า ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและการดูแลสุขภาพผู้หญิง ไบเออร์ไทยมุ่งมั่นสนับสนุนการวางแผนครอบครัวมาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงวัยของผู้หญิง และเรายังเปิดตัวแคมเปญ Bayer for Her ซึ่งเป็นแคมเปญที่ส่งเสริมให้ผู้หญิงมีการใส่ใจดูแล (care) ในเรื่องของสุขภาพตัวเองมากขึ้น รวมถึงรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหากมีข้อกังวลใจเกี่ยวกับสุขภาพที่เป็นอยู่ โดยในวันคุมกำเนิดโลกนี้ เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่ทุกภาคส่วนมาร่วมกันรณรงค์นเพื่อเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการลดการตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผนของวัยรุ่นไทย และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และสำหรับไบเออร์ ไทย เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์นี้มาตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา

แพทย์หญิงปานียา สูตะบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ แผนกฟาร์มาซูติคอล บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุที่นอกเหนือจากการขาดการตระหนักในเรื่องของการคุมกำเนิดและการเลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดไม่เหมาะสมแล้ว ยังมีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับการใช้ยาคุมกำเนิดอีกด้วย อาทิ ยาคุมกำเนิดมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่งผลต่อภาวะการตั้งครรภ์ในอนาคต เป็นต้น

“การแพร่ระบาดของโควิด 19 ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้หญิงวัยรุ่นโดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อย ถึงปานกลาง ยากที่จะเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่ดี หรือเข้าไม่ถึงการให้คำปรึกษาการคุมกำเนิด การวางแผนครอบครัว หรือการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย เป็นสาเหตุให้ปัญหาตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ไม่ลดลง”

สำหรับแนวทางการรณรงค์เนื่องในวันคุมกำเนิดโลก ปี 2565 ภายใต้แคมเปญ #เช็คให้ชัวร์ คุมให้ถูก มีลูกเมื่อพร้อม (BreakingMyths) ซึ่งเกิดจากการผนึกของ 3 องค์กรภาคี ได้แก่ ไบเออร์ ไทย สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย และสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ มีการดำเนินกิจกรรมที่หลากหลายเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อาทิ
•จัดกิจกรรมวันคุมกำเนิดโลก 2565 บริเวณลิโด้ คอนเนค สยามสแควร์ ในวันที่ 25 กันยายน 2565 โดยมีกิจกรรมรณรงค์

*กิจกรรมเสวนาโดยสูตินรีแพทย์และการแชร์ประสบการณ์การรณรงค์ป้องกันท้องไม่พร้อมในโรงเรียนจากตัวแทนเยาวชน พร้อมกับมินิคอนเสิร์ตจากวง Yes Indeed ส่งเสริมการทำกิจกรรมในหมู่วัยรุ่น
•จัดทำ“คู่มือ 8 ความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการคุมกำเนิด” เพื่อเป็นคู่มือเบื้องต้นสำหรับการให้คำปรึกษา และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง สำหรับผู้เข้ารับบริการที่ร้านขายยา
•จัดทำข้อมูล infographic เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการคุมกำเนิดที่ถูกต้องผ่าน Facebook Page คลับนี้เลดี้คุม by younglove
•สื่อวิดีโอออนไลน์ ภายใต้แนวคิด #เช็คให้ชัวร์ คุมให้ถูก มีลูกเมื่อพร้อม โดยสูตินรีแพทย์นพ. โอฬาริก มุสิกวงศ์ และนางแบบ นักแสดง ติชากันติชา ชุมมะ ผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ของ Mission to The Moon และ Facebook Page คลับนี้เลดี้คุมby younglove

การจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันคุมกำเนิดโลก (World Contraception Day 2022) นับเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ 3 องค์กรภาคี ที่จะแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร หรือภาวะท้องไม่พึงประสงค์โดยเฉพาะในวัยรุ่น ซึ่งดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 พร้อมกับอีก 70 ประเทศทั่วโลก

TAGS

News & Activity

ช่วงเช้าที่ผ่าน(20/09/62) คลินิกเวชกรรม สวท เชียงราย ร่วมออกบูธกิจกรรมให้ความรู้อนามัยการเจริญพันธุ์ ป้องกันการตั้งครรภ์และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เนื่องในวันเยาวชนแห่งชาติปี 2562 จังหวัดเชียงราย #วันเยาวชนแห่งชาติ2562#รู้ทันไม่ท้อง…
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (7 มิถุนายน 2559) ดร.กาญจนา กาญจนสินิธท์ นายก สวท พร้อมด้วยนายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายชัยยศ อิ่มสุวรรณ เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ และ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิต ณ ห้องประชุม 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดร.กาญจนา กาญจนสินิธท์ นายก สวทเปิดเผยว่า ปัจจุบันสภาพสังคมไทยตามแหล่งชุมชนต่างๆ แวดล้อมไปด้วยภัยหลากหลายรูปแบบ ซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน สวท จึงร่วมมือกับสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จัดทำโครงการลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตขึ้น เนื่องจากทักษะชีวิตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กและเยาวชนในยุคปัจจุบัน อาทิ การู้เท่าทันสื่อออนไลน์ การรู้จักเอาตัวรอดจากภัยธรรมชาติ การรู้จักเอาตัวรอดจากการการถูกทำร้ายร่างกาย หรือการมีความรู้เรื่องเพศศึกษา ปัญหาความรุนแรง การรักนวลสงวนตัว เป็นต้น โดยใช้ระยะเวลาในการพัฒนาหลักสูตรตั้งแต่ปี 2552 จนสามารถพัฒนาหลักสูตรลูกเสือทักษะชีวิตได้ถึง 8 หลักสูตรครอบคลุมผู้เรียนวิชาลูกเสือในทุกระดับทั้งลูกเสือสำรอง สามัญ สามัญรุ่นใหญ่ และวิสามัญ ขณะที่นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกล่าวระหว่างการลงนามว่า กระทรวงศึกษาเห็นความสำคัญต่อการเสริมสร้างทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาเป็นอย่างยิ่ง และหลักสูตรลูกเสือทักษะชีวิตที่พัฒนาขึ้นนี้จะเป็นส่วนหนุนเสริมสำคัญที่จะช่วยเติมเต็มให้เยาวชน ซึ่งจะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศได้มีภูมิคุ้มกันทั้งทางร่างกายและจิตใจ จนนำไปสู่การพัฒนาทักษะอย่างแท้จริง สพฐ.ซึ่งมีสถานศึกษากว่า 40,000 แห่ง พร้อมให้ความร่วมมือนำหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นขยายผลไปสู่สถานศึกษาทั่วประเทศต่อไป ในส่วนของนายชัยยศ อิ่มสุวรรณ เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อมั่นว่าหลักสูตรการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิตผ่านกิจกรรมลูกเสือนี้ จะช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนได้มีทักษะชีวิตที่สามารถเอาตัวรอดจากภัยต่างๆได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้สำนักงานลูกเสือแห่งชาติได้ออกตราสัญลักษณ์ลูกเสือบนปกคู่มือเพื่อรับรองการสอนในสถานศึกษา ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับครูผู้สอนวิชาลูกเสือได้เป็นอย่างดี และหวังว่าจากความร่วมมือนี้จะสามารถขยายผลไปสู่สถานศึกษาทุกสังกัดทั่วประเทศต่อไป เช่นเดี่ยวกับดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส.กล่าวว่า สสส.ในฐานะผู้สนับสนุนทุนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนสำคัญในการร่วมพัฒนาหลักสูตรลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตในครั้งนี้…
Privacy Preferences

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save